จดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรือ อีเมล์ (E-Mail)
เรียกย่อว่า E-Mail (อีเมล์) คือการส่งจดหมายทางคอมพิวเตอร์โดยผู้ส่งจะต้องพิมพ์ข้อความ โดยอาจแนบรูปภาพ ไฟล์เสียง หรือไฟล์วิดีโอ ไปกับจดหมายก็ได้ จดหมายจะถูกส่งถึงปลายทางอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาที และเข้าไปรอในตู้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อผู้รับมาเปิดตู้จดหมายก็สามารถอ่านจดหมาย ดูเอกสารแนบ และพิมพ์ข้อความตอบจดหมายกลับมาได้สะดวกและรวดเร็ว ผู้รับและผู้ส่งไม่จำเป็นต้องออนไลน์ในขณะเดียวกัน
การรับ-ส่งข้อความ (รวมทั้งรูปภาพ เสียง วิดีโอ) ในลักษณะจดหมาย โดยใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นเส้นทางในการรับ - ส่ง
ใช้เวลาในการรับ/ส่งไม่นาน (หน่วยเป็นนาที)
การใช้ E-Mail จะต้องมี E-Mail Address เพื่อระบุปลายทางในการรับ-ส่ง ลักษณะเดียวกับชื่อ-ที่อยู่ในการส่งจดหมายปกติ การส่งอีเมล์สามารถสำเนาจดหมายส่งให้หลาย ๆ คนพร้อมกันได้ (CC) ทำสำเนาลับได้ (Bcc) สามารถแนบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของแฟ้มข้อมูล รูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ ไปด้วยได้ (Attachments) ซึ่งก็จะทำให้ผู้รับสามารถรับเอกสารทั้งหมดแล้วทำการตอบจดหมาย (Reply) จดหมายต่อ (Forward) หรือลบทิ้งได้(Delete)
การติดต่อสื่อสารโดยใช้อีเมลสามารถทำได้โดยสะดวก และประหยัดเวลาหลักการทำงานของอีเมลล์ก็คล้ายกับการส่งจดหมายธรรมดา นั้นคือ จะต้องมีที่อยู่ที่ระบุชัดเจน ก็คือ อีเมลล์แอดเดรส (E-mail address) องค์ประกอบของ e-mail address ประกอบด้วย
1. ชื่อผู้ใช้ (User name)
2. ชื่อโดเมน Username@domain_name
การใช้งานอีเมล สามารถแบ่งได้ดังนี้ คือ
1. Corporate e-mail คือ อีเมล ที่หน่วยงานต่างๆสร้างขึ้นให้กับพนักงานหรือบุคลากรในองค์กรนั้น เช่น jatuporn@pibul.ac.th คือ e-mail ของครูโรงเรียนพิบูลวิทยาลัยเป็นต้น
2. Free e-mail คือ อีเมล ที่สามารถสมัครได้ฟรีตาม web mail ต่างๆ เช่น Hotmail, Yahoo Mail, Thai Mail และ Chaiyo Mail
ด้านรับส่งข่าวสาร
อีเมล์แอดเดรส (E-mail Address)
1. ชื่อบัญชีสมาชิกของผู้ใช้เรียกว่า user name อาจใช้ชื่อจริง ชื่อเล่น หรือชื่อองค์กรก็ได้
2. ส่วนนี้คือเครื่องหมาย @ (at sign) อ่านว่า "แอท"
3. ส่วนที่สามคือ โดเมนเนม (Domain Name) เป็นที่อยู่ของอินเทอร์เน็ตเซิร์ฟเวอร์ ที่เราสมัครเป็นสมาชิกอยู่ เพื่ออ้างถึงเมล์เซิร์ฟเวอร์
4. ส่วนสุดท้ายเป็นรหัสบอกประเภทขององค์กรและประเทศ ในที่นี้คือ .co.th โดยที่ .co หมายถึง commercial เป็นบริการเกี่ยวกับการค้า ส่วน .th หมายถึง Thailandอยู่ในประเทศไทย
องค์ประกอบของอีเมล์
กล่องจดหมายขาเข้า (Inbox) เป็นพื้นที่ในการเก็บจดหมายที่บุคคลอื่นส่งมาหาเรา
กล่องจดหมายออก (Outbox) เป็นพื้นที่สำหรับเก็บสำเนาของจดหมายที่เราส่งไปถึงผู้อื่น
กล่องจดหมายขยะ (Junk mail หรือ Spam) เป็นพื้นที่สำหรับจัดเก็บจดหมายที่ผู้ส่งโฆษณาหรือผู้ที่เราไม่รู้จักส่งมาให้
กล่องจดหมายร่าง (Draft) สำหรับเก็บจดหมายที่ยังเขียนไม่เสร็จ
ถังขยะ (Trash) เป็นที่เก็บจดหมายที่ถูกลบทิ้งแล้ว
ข้อควรระวังในการใช้อีเมล์
เว็บไซต์ลามกเป้แหล่งเผยแพร่ไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุด เราจึงไม่ควรไปเขียนอีเมล์ทิ้งไว้ในเว็บไซต์ลามกและเว็บไซต์อื่น ๆ โดยไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ติดไวรัส หรือแอบแฝงมาทางอีเมล์ที่ส่งมาให้
อีเมล์จากคนที่ไม่รู้จัก อีเมล์โฆษณาชวนเชื่อต่าง ๆ เช่น ชวนหารายได้พิเศษ ขายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ขายยาไวอาก้า ฯลฯ เรียกว่า Spam หรือ Junk Mail นอกจากก่อความรำคาญแล้ว ยังอาจมีไวรัสติดมาด้วยได้ หลีกเลี่ยงการอ่านเมล์ขยะ และการเปิดไฟล์แนบไม่ควรเปิดอีเมล์จากบุคคลที่ไม่รู้จัก เพราะอาจทำให้เครื่องติดไวรัสคอมพิวเตอร์ได้ไม่ควรโต้ตอบอีเมล์กับคนแปลกหน้า เพราะอาจถูกหลอกถามข้อมูลส่วนตัว หรือถูกสอดแนมโดยโปรแกรมนักสืบที่แอบแฝงมาด้วยไม่ควรเขียนข้อมูลส่วนตัว ความลับ หรือส่งรูปภาพส่วนตัวไปทางอีเมล์
อีเมล์จากคนที่ไม่รู้จัก อีเมล์โฆษณาชวนเชื่อต่าง ๆ เช่น ชวนหารายได้พิเศษ ขายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ขายยาไวอาก้า ฯลฯ เรียกว่า Spam หรือ Junk Mail นอกจากก่อความรำคาญแล้ว ยังอาจมีไวรัสติดมาด้วยได้ หลีกเลี่ยงการอ่านเมล์ขยะ และการเปิดไฟล์แนบไม่ควรเปิดอีเมล์จากบุคคลที่ไม่รู้จัก เพราะอาจทำให้เครื่องติดไวรัสคอมพิวเตอร์ได้ไม่ควรโต้ตอบอีเมล์กับคนแปลกหน้า เพราะอาจถูกหลอกถามข้อมูลส่วนตัว หรือถูกสอดแนมโดยโปรแกรมนักสืบที่แอบแฝงมาด้วยไม่ควรเขียนข้อมูลส่วนตัว ความลับ หรือส่งรูปภาพส่วนตัวไปทางอีเมล์
บริการด้านการติดต่อสื่อสาร
Telnet การขอเข้าระบบจากระยะไกล เป็นการให้บริการทางไกล (Remote) คือทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเป็นเครื่องลูกข่าย (Client) ของคอมพิวเตอร์หลัก (Host) ทำให้สามารถใช้งานโปรแกรมและข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์หลักได้ เช่นเราทำงานที่โรงเรียน เมื่อกลับไปบ้านก็เรียกข้อมูลจากเครื่องที่โรงเรียนมาทำที่บ้านได้เหมือนกับทำอยู่ที่โรงเรียน
Telnet เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ห่างไกลกันคล้ายกับการโทรศัพท์เข้าไปที่เครื่อง โดยซอฟท์แวร์ที่ใช้ต้องเป็น Client ของ Telnet The Internet Telephone และ The Videophone เพื่อประชุมทางไกล หรือใช้ในการเรียนการสอนทางไกล
Telnet เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ห่างไกลกันคล้ายกับการโทรศัพท์เข้าไปที่เครื่อง โดยซอฟท์แวร์ที่ใช้ต้องเป็น Client ของ Telnet The Internet Telephone และ The Videophone เพื่อประชุมทางไกล หรือใช้ในการเรียนการสอนทางไกล
บริการการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล
FTP การถ่ายโอนข้อมูล
FTP ย่อมาจาก File Transfer Protocalเป็นบริการส่งถ่ายแฟ้มข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถ Copy หรือ Download โปรแกรมจากผู้ให้บริการ ซึ่งเรียกว่า FTP Server มายังเครื่องของผู้ใช้ได้ ถ้านำไฟล์จากเครื่องผู้ใช้ขึ้นไปยัง Server เรียก Uploadการนำไฟล์จาก Server มายังเครื่องของผู้ใช้เรียก Download
บริการค้นหาข้อมูล
บริการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต สามารถสืบค้นได้ 3 วิธี ดังนี้
1. Web directory คือ การค้นหาโดยการเลือก Directory ที่จัดเตรียมและแยกหมวดหมู่ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว website ที่ให้บริการ web directory เช่น www.yahoo.com, www.sanook.com
2. Search Engine คือ การค้นหาข้อมูลโดยใช้โปรแกรม Search โดยการเอาคำที่เราต้องการค้นหาไปเทียบกับเว็บไซต์ต่างๆ ว่ามีเว็บไซต์ใดบ้างที่มีคำที่เราต้องการค้นหา website ที่ให้บริการ search engine เช่น www.yahoo.com, www.sanook.com, www.google.co.th, www.sansarn.com
3. Metasearch คือ การค้นหาข้อมูลแบบ Search engine แต่จะทำการส่งคำที่ต้องการไปค้นหาในเว็บไซต์ที่ให้บริการสืบค้นข้อมูลอื่นๆ อีก ถ้าข้อมูลที่ได้มีซ้ำกัน ก็จะแสดงเพียงรายการเดียว เว็บไซต์ที่ให้บริการMetasearch เช่น www.search.com,www.thaifind.com
บริการข้อมูลมัลติมีเดีย
WWW การสืบค้นข้อมูล
WWW ย่อมาจาก World Wide Web เป็นแหล่งเก็บข้อมูลในลักษณะข้อความ ภาพ และเสียง ซึ่งมีรูปแบบการนำเสนอที่เรียกว่า Web page โดย ข้อมูลในแต่ละส่วนสามารถเชื่อมโยง (Link) ไปยังแหล่งข้อมูลส่วนอื่นได้ เปรียบเสมือนใยแมงมุม(WEB)
Web page
คือการนำเสนอข้อมูลต่างๆ มากมายในลักษณะหน้ากระดาษอิเล็กทรอนิกส์
Home page คือหน้าแรกของ Web page
Web Site คือการเว็บเพจมารวมกันในแหล่งเดียวกัน
Web Browser และการแสดงผลข้อมูล
Web Site
เว็บไซต์ คือเครื่องคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานหรือองค์กรใด ๆ ที่เชื่อมต่ออยู่กับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และสามารถให้บริการ ที่เรียกว่า WWW (World Wide Web) แก่คอมพิวเตอร์ทั่วไป การเรียกบริการต้องระบุที่อยู่ของเว็บไซต์นั้น ๆ ซึ่งเรียกว่า URL
URL : Uniform Resource Locator
เช่น http://www.hotmail.com เป็นต้น
- § Archieอาร์คี
ผู้ใช้บริการจะทำตัวเสมือนเครื่องลูกข่ายที่เรียกเข้าไปใช้บริการของ Archie Server ซึ่งจะเสมือนกับได้ดูว่าสถานที่ซึ่งมีข้อมูลที่ตนต้องการอยู่ที่ใดก่อน จากนั้นจึงเรียกค้นไปยังสถานที่นั้นโดยตรงต่อไป - § Gopherโกเฟอร์
เป็นบริการค้นหาข้อมูลแบบตามลำดับชั้น ซึ่งมีเมนูให้ใช้งานได้สะดวก โปรแกรม Gopher นี้ได้รับการพัฒนาขึ้นที่มหาวิทยาลัยมิเนโซตา ข้อมูลที่เก็บอยู่ในระบบเป็นฐานข้อมูลที่กระจายกันอยู่หลายแห่งแต่มีการเชื่อมโยงถึงกันเป็นขั้นๆ - § Hytelnet
เป็นบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้หาชื่อโฮสต์และชื่อ Login พร้อมคำอธิบายโดยย่อของแหล่งข้อมูลที่ต้องการได้ด้วยการใช้งาน แบบเมนู เมื่อได้ชื่อโฮสต์ที่ต้องการแล้วก็สามารถเรียกติดต่อไปได้ทันที แหล่งข้อมูลส่วนใหญ่ของบริการ Hytelnet นี้มักจะเป็นชื่อที่อยู่ของห้องสมุดต่างๆ ทั่วโลก - § WAISเวส(WideAreaInformationSevers)
เป็นบริการที่มีลักษณะเป็นศูนย์ข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลและดัชนีสำหรับค้นหาข้อมูลจำนวนมากเอาไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ในการค้นหาเมื่อเข้าสู่ศูนย์ข้อมูลนั้น และยังมีการเชื่อมโยงกันไปยังศูนย์ข้อมูลอื่นอีกปัจจุบันมีศูนย์ข้อมูลแบบ WAIS ให้ค้นหาได้หลายที่
Use Net การแลกเปลี่ยนข่าวสารและความคิดเห็น
UseNet ย่อมาจาก User Network เป็นการแบ่งข่าวสารเป็นกลุ่มย่อย ๆ เก็บไว้ใน News Server ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ในอินเตอร์เน็ต ที่ทำหน้าที่เก็บข่าวสารต่าง ๆที่ผู้ใช้ส่งมาเรียกกลุ่มข่าวสารนี้ว่า News Group และเรียกข่าวที่ส่งมาว่า Article
นิวส์กรุ๊ป (Newsgroup) หรือยูสเน็ต (UseNet)
เป็นบริการที่ช่วยให้ท่านเข้าสู่ข่าวสารข้อมูลของกลุ่มสนทนาแลกเปลี่ยนปัญหาข้อสงสัยข่าวสารต่าง ๆ กลุ่มเหล่านี้จะมีสารพัดกลุ่มตามความสนใจ โปรแกรมที่ช่วยให้ท่านใช้บริการนี้ คือ โปรแกรม Netscape News ที่อยู่ใน โปรแกรม Netscape Navigator Gold 3.0 เมื่อเปิดโปรแกรมดังกล่าว จากนั้นรายชื่อของกลุ่มสนทนาจะปรากฏขึ้นให้ท่านเลือกอ่านตามใจชอบ
ตัวอย่างกลุ่มข่าว
alt (Alternative) หัวข้อทั่ว ๆไป biz(Business)หัวข้อธุรกิจ com(Computer)หัวข้อด้านคอมพิวเตอร์ k12หัวข้อเกี่ยวกับการศึกษา
IRC การสื่อสารด้วยข้อความ
IRC ย่อมาจาก Internet Relay Chat
เป็นการให้บริการสนทนาระหว่างผู้ใช้คอมพิวเตอร์โดยอาศัยการพิมพ์ข้อความทางแป้นพิมพ์ แทนการพูดด้วยคำพูด ทำให้คนทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น โปรแกรมที่นิยมมากคือ ICQ, PIRCH, NetMeeting, I-Phone,MSN
สนทนาแบบออนไลน์ (Chat)
ผู้ใช้บริการสามารถคุยโต้ตอบกับผู้ใช้คนอื่นๆ ในอินเตอร์เน็ตได้ในเวลาเดียวกัน (โดยการพิมพ์เข้าไปทางคีย์บอร์ด) เสมือนกับการคุยกันแต่ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ของทั้งสองที่ ซึ่งก็สนุกและรวดเร็วดี บริการสนทนาแบบออนไลน์นี้เรียกว่า Talk เนื่องจากใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า Talk ติดต่อกัน หรือจะคุยกันเป็นกลุ่มหลายๆ คนในลักษณะของการ Chat (ชื่อเต็มๆ ว่า Internet Relay Chat หรือ IRC ก็ได้) ซึ่งในปัจจุบันก็ได้พัฒนาไปถึงขั้นที่สามารถใช้ภาพสามมิติ ภาพเคลื่อนไหวหรือการ์ตูนต่างๆ แทนตัวคนที่สนทนากันได้แล้ว และยังสามารถคุยกันด้วยเสียงในแบบเดียวกับ โทรศัพท์ ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลบนจอภาพหรือในเครื่องของผู้สนทนาแต่ละฝ่ายได้อีกด้วยโดย การทำงาน แบบนี้ก็จะอาศัยโปรโตคอลช่วยในการติดต่ออีกโปรโตคอลหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า IRC (Internet Relay Chat) ซึ่งก็เป็นโปรโตคอลอีกชนิดหนึ่งบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่สามารถทำให้ User หลายคนเข้ามาคุยพร้อมกันได้ผ่านตัวหนังสือแบบ Real time โดยจะมีหลักการคือ มีเครื่อง Server ซึ่งจะเรียกว่าเป็น IRC server ก็ได้ซึ่ง server นี้ก็จะหมายถึงฮาร์ดแวร์+ซอฟแวร์โดยที่ฮาร์ดแวร์คือ คอมพิวเตอร์ที่จำเป็นจะต้องมีทรัพยากรระบบค่อนข้างสูงและจะต้องมีมากกว่า 1 เครื่องเพื่อรองรับ User หลายคน เครื่องของเราจะทำหน้าที่เป็นเครื่อง Client ซึ่งก็คือคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ตได้แบบธรรมดา โดยที่ไม่ต้องการทรัพยากรมากนัก และก็ต้องมีโปรแกรมสำหรับเชื่อมต่อเข้า Irc server ได้
การสนทนาผ่านเครือข่ายออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีหลายโปรแกรมเช่น โปรแกรม Pirch, ICQ, Windows Messenger (MSN), Yahoo Messenger
บริการซื้อ-ขายสินค้าและบริการ (E-Commerce)
เป็นการจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการ เช่น การซื้อ–ขาย หนังสือ
คอมพิวเตอร์ บริการการท่องเที่ยว ฯลฯ และปัจจุบันมีบริษัทใช้อินเตอร์เน็ตในการทำธุรกิจบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในปี 2540
ที่ผ่านมา การค้าขายบนอินเตอร์เน็ตมีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านบาท
คอมพิวเตอร์ บริการการท่องเที่ยว ฯลฯ และปัจจุบันมีบริษัทใช้อินเตอร์เน็ตในการทำธุรกิจบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในปี 2540
ที่ผ่านมา การค้าขายบนอินเตอร์เน็ตมีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านบาท
การให้บริการทางด้านความบันเทิง
การให้บริการทางด้านความบันเทิง สามารถหาได้หลากหลายบนอินเทอร์เน็ต โดยในแต่ละเว็บไซต์จะมีสิ่งเหล่านี้ให้กับผู้ใช้บริการ หรือผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้เข้าไปสัมผัส บางเว็บไซต์ก็เป็นเว็บที่ให้บริการด้านความบันเทิงโดยตรงก็มี ซึ่งการให้บริการบันเทิงบนอินเทอร์เน็ตได้แก่ การให้บริการหนังสือนิตยสารทางด้านแฟชั่นออนไลน์ การให้บริการดูหนังฟังเพลง การให้บริการเกมออนไลน์ การให้บริการแหล่งชุมนุมของวัยรุ่น และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มีให้สำหรับความบันเทิงที่ไร้ขีดจำกัด บนอินเทอร์เน็ต
- การให้บริการหนังสือนิตยสารทางด้านบันเทิงและแฟชั่นออนไลน
ผู้ใช้สามารถที่จะเข้าไปอ่านหนังสือ วารสาร หรือนิตยสารได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีบริษัทที่ผลิตสิ่งพิมพ์จำนวนมาก จัดทำนิตยสารออนไลน์ โดยมีเนื้อหาที่เป็นทั้งภาษาไทยและอังกฤษ หรือภาษาอื่น ๆ ไว้บริการแก่ผู้ใช้มากมาย
- การให้บริการดูหนังฟังเพลง
บนอินเทอร์เน็ตนั้นผู้ใช้สามารถที่จะฟังเพลงจากสถานีวิทยุต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ และยังชมการถ่ายทอดโทรทัศน์ได้อีกด้วย แต่คุณภาพของเสียงที่ได้รับจะไม่เท่ากับปกติ ซึ่งในด้านคุณภาพจัดได้ว่าเป็นที่น่าพอใจสำหรับผู้ใช้บริการ
- การให้บริการเกมออนไลน์
บนอินเทอร์เน็ตนั้นมีเว็บไซต์มากมายที่มีเกมให้บริการเล่นฟรี โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้สามารถเข้าไปเล่น หรือทดลองเล่นได้ หลังจากนั้นหากสนใจสามารถที่จะสั่งซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตได
- การให้บริการแหล่งชุมนุมของวัยรุ่น
การให้บริการแหล่งชุมนุมของวัยรุ่นนี้ เป็นการรวบรวมข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เกี่ยวกับวัยรุ่นไว้ในเว็บไซต์ และมีการให้บริการต่าง ๆ มากมาย เช่น
บริการ E – Learning (Electronic Learning)
คือบริการทางด้าน ICT (Information and Communication Technology) เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวก ในการจัดการเรียนการสอน การถ่ายทอดความรู้ และการอบรม ต่าง ๆ
บริการเวิลด์ไวด์เว็บ และเว็บบราวเซอร์ (World Wide Web) หรือเครือข่ายใยพิภพ
เป็นบริการหนึ่งที่ทำให้อินเตอร์เน็ตร้อนแรงที่สุดในยุคนี้ และไม่มีใครเกิน บริการเวิลด์ไวด์เว็บ เป็นตัวสร้างภาพที่สวยสดงดงาม พร้อมสรรพด้วยข้อมูลหลากหลายประเภท อาทิเสียง ภาพเคลื่อนไหว ฯลฯ นำเสนอรวมในหน้าเอกสารเดียวกัน